“สาธิตเกษตร The Best of School”
นี่คือคำตอบว่าทำไมใครๆ ก็อยากให้ลูกสอบเข้าเรียนที่โรงเรียนสาธิตเกษตร
ขึ้นต้นบทความอย่างนี้อย่าเพิ่งอิจฉาหรือหมั่นไส้นะครับ เพียงแค่อยากบอกว่าเท่าที่ได้สัมผัสโรงเรียนสาธิตเกษตร หรือชื่อเต็มๆ คือ “โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา” ลูกสาวเรียนที่นี่แล้วมีความสุขมาก เลยอดชื่นชมไม่ได้จริงๆ คำตอบคืออะไรบ้างไปดูกันเลย
1. พื้นที่โรงเรียนกว้างขวางใหญ่โตมาก ถ้าใครได้มาเห็นต้องร้องโอ้โหอย่างแน่นอน สนามฟุตบอลกว้างพอๆ กับสนามแข่งขันจริงๆ กันเลยทีเดียว น่าอิจฉามากกกกก ถามว่าโรงเรียนในกรุงเทพมหานครจะมีสักกี่โรงเรียนกันเชียวที่มีพื้นที่กว้างขวางอย่างนี้ ส่วนมากจะแออัดเต็มไปด้วยตึกทั้งนั้น ลองไปสำรวจกันดูได้เลยครับ
นี่ยังไม่รวมสนามบาส อาคารกีฬา สระว่ายน้ำ สนามวอลเล่ย์บอล สนามเทนนิสที่ตั้งอยู่ในโรงเรียนอีกนะครับ สุดยอดมากๆ
2. เรียนยาวตั้งแต่ป.1 ถึงม.6 เรียกได้ว่า12 ปีเต็มๆ สบายๆ
3. นักเรียนประถมและมัธยมอยู่ในรั้วโรงเรียนเดียวกัน ดังนั้นเราจะเห็นภาพพี่มัธยมที่กำลังเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวเดินจูงมือเด็กน้อยนักเรียนป.1 ป.2 น่ารักมาก
4. ทุกๆ ปีจะต้องมีกิจกรรมใหญ่ นั่นคือ งานประจำปี เด็กๆ ทุกคนย้ำว่าทุกคนจะได้มีการแสดงร่วมกันกลางสนามหญ้าหน้าเสาธง ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ช่วยกันแสดงออก ในวันนั้นจะเห็นผู้ปกครองตั้งกล้องรอถ่ายรูปลูกตัวเองกับเพื่อนๆ มีการออกร้าน มีการแสดงดนตรีภาคค่ำ มีบ้านผีสิงฝีมือเด็กมัธยม มีลานเกมส์ มีการแสดงโขน มันเจ๋งสุดๆ
5. แต่ละชั้นปีแบ่งเป็น7 ห้องรวมกับนักเรียน IP (English Program) อีก1 ห้องก็เป็น 8 ห้อง ความพิเศษอยู่ที่เมื่อเลื่อนชั้นแต่ละปีเด็กจะได้สลับห้องกันโดยที่ไม่มีทางรู้ก่อนเลยว่าจะได้อยู่ห้องไหน ดังนั้นเพื่อนๆ ทั้งชั้นปี 280 คนจะต้องมีโอกาสได้อยู่ห้องเดียวกันแน่ๆได้รู้จักเพื่อนๆ ทั้ง280 คนอย่างแน่นอน
6. เมื่อรวมกับพี่ๆ ชั้นปีอื่นด้วย ชั้นละ 280 x 12 (ป.1-ม.6) เท่ากับ 3,360 คนโดยประมาณ ยิ่งเมื่อเลื่อนชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ พี่เก่าเรียนจบก็จะมีน้องใหม่เข้ามาทุกปี ปีละ 280 คน ถ้านับ 280 คนที่เข้ามาใหม่ x 11 ปี (ป.1-ม.5 สมมุติว่าเราอยู่ม.6) ก็จะมีเพื่อนรุ่นน้องอีก 3,080 คน
เมื่อรวมกับที่มีอยู่แล้ว 3,360+3,080 เท่ากับ 6,440 คน โอ้พระเจ้าจอร์จสุดยอดมาก แสดงว่าเด็กๆ สาธิตเกษตรจะได้เจอเพื่อนๆ ผ่านหน้าผ่านตากันถึง 6,440 คนเลยนะครับเนี่ย นี่ยังไม่รวมเด็กIP อีกปีละ40 คนนะครับ ว้าาวววววววว
7. เมื่อหนูน้อยป.1 เปิดเทอมไปโรงเรียนวันแรก พวกเขาจะตื่นเต้นมาก ได้เจอเพื่อนใหม่ คุณครูคนใหม่ที่ใจดีมากๆ และกิจกรรมแรกที่พวกเขาจะได้สนุกแน่ๆ ก็คือกีฬาสี ได้เห็นพี่ๆ เล่นกีฬาซ้อมเชียร์กันอย่างสนุกสนานโดยคุณครูจะแบ่งให้เด็กๆ ได้มีส่วนร่วมกับกีฬาสีนี้ครบถ้วนทุกคนแน่นอน เด็กน้อยจะได้เล่นสนุกกับเพื่อนๆ งานนี้เป็นงานแรกเลย
8. จากนั้นยังมีโอกาสได้สัมผัสกับเพื่อนๆ นักเรียนชาวญี่ปุ่นจากโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่นได้สัมผัสวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่นต้องเตรียมของไว้มอบให้เพื่อนใหม่ เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากๆ
9. นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่ตามมาอีกมากมาย เช่นงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ดนตรีในสวน งานกีฬาสาธิตสามัคคี งานคอนเสิร์ตโรงเรียน ค่ายพักแรม ค่ายกลางวันอื่นๆ อีกเพียบ
10. กิจกรรมอีกอย่างที่ถูกใจเด็กๆ มากๆ เด็กสาธิตเกษตรทุกคนตั้งตารอคอยนั่นคือ ทุกเทอมขอย้ำว่าทุกเทอมเด็กๆ แต่ละชั้นปีจะได้ไปทัศนศึกษาข้างนอกด้วยกันไปสวนสัตว์ดุสิตไปพระที่นั่งอนันตสมาคมไปวัดชลประทานไปวัดพระศรีมหาธาตุ ไปพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ ไปท้องฟ้าจำลอง ฯลฯ เด็กๆ จะเตรียมห่อข้าวที่คุณพ่อคุณแม่จัดเตรียมมาให้เข้าแถวเดินขึ้นรถอย่างพร้อมเพรียง หน้าตายิ้มร่าอย่างมีความสุข คุณพ่อคุณแม่เห็นบอกเลยน่าสนุกจัง ขอไปด้วยยยยยย
11. พื้นที่โรงเรียนตั้งแต่ป.1 ถึงม.6 จะอยู่ในรั้วโรงเรียนเดียวกันก็จริง แต่ไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะงงหรือสับสนเพราะอาคารเรียนจะแบ่งพื้นที่กันอย่างชัดเจน นั่นคือ
อาคาร 1 สำหรับเด็กป.3, ป.4
อาคาร 2 สำหรับเด็กป.5
อาคาร 3 สำหรับเด็กป.6
พื้นที่ระหว่างทั้ง 3 อาคารนี้ก็ยังมีสนามเด็กเล่น มีสนามบาสระหว่างอาคารให้เด็กได้เล่นได้ฝึกซ้อมกันระหว่างพักเรียนด้วย
อาคาร 4 สำหรับเด็กIP ตั้งแต่ป.1-ม.6แน่นอนว่าเด็ก IP ก็จะมีพื้นที่สนามเด็กเล่นของเด็ก IP โดยเฉพาะดูอินเตอร์มากๆ
อาคาร 5 สำหรับพี่มัธยมม.1-ม.3
อาคาร 6 สำหรับพี่มัธยมม.4-ม.6
พื้นที่ระหว่างอาคาร 5 และอาคาร 6 มีสวนมิตรสัมพันธ์เป็นพื้นที่ต้นไม้สูงร่มรื่นสะอาดสะอ้านมีศาลาพักใจน่านั่งเล่นมากๆ
อาคาร 7 สำหรับน้องน้อยป.1,ป.2 มีสนามเด็กเล่นให้ด้วย ใครมาเห็นต่างก็ต้องอิจฉาเด็กๆ ทั้งนั้นกว้างขวางและมีของเล่นน่าสนุกมากๆๆ ให้เด็กๆ ได้ปีนป่าย ยิ่งตอนที่เด็กๆ เลิกเรียนรอผู้ปกครองมารับก็จะเห็นภาพเด็กๆ วิ่งตรงมาเล่นที่สนามกันอย่างสนุกสนาน ผู้ปกครองก็ตาลายมองหาลูกหลานของตัวเองไม่เจอ เพราะแต่งชุดนักเรียนแล้วก็น่ารักเหมือนกันไปหมดทุกคน
12. ปลายเทอมต้นของทุกปีจะมีกิจกรรม “สัปดาห์สนทนาศิษย์-ลูก” เปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่ได้เข้าไปชมห้องเรียนของลูกๆ ในวันนั้นเด็กๆ จะช่วยกันจัดห้องเรียนให้สวยงามเป็นพิเศษ มีการประดับประดาด้วยผลงานของเด็กๆ มีรายชื่อเพื่อนรัก เด็กๆ จะเตรียมน้ำดื่มไว้ต้อนรับคุณพ่อคุณแม่ของตนเองพร้อมการแสดงเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็ทำเอาคุณพ่อคุณแม่ยิ้มแก้มปริกันเลยทีเดียว
จากนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาที่คุณครูจะเล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาได้เตรียมการสอนอะไรให้เด็กๆ บ้าง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คุณพ่อคุณแม่ได้ซักถามถึงการเรียนการสอนในห้องเรียนและพฤติกรรมของลูกๆ ของตนเองอย่างเต็มที่ จะได้รู้ว่าลูกๆ ของเราอยู่ที่โรงเรียนในห้องเรียนเป็นอย่างไรบ้างก็คราวนี้แหละ เด็กคนไหนปกปิดอะไรไว้ไม่บอกคุณพ่อคุณแม่ได้รู้กันก็คราวนี้^^
13. ก่อนปิดเทอมในแต่ละปีจะมีพิธีเชิดชูเกียรติอย่างยิ่งใหญ่ นั่นคือ ประกาศคุณความดีและมอบเกียรติบัตรให้แก่เด็กๆ ที่เรียนดีกีฬาเด่นในหอประชุมที่มีขนาดกว้างใหญ่พอๆ กับหอประชุมมหาวิทยาลัยเลยทีเดียว เด็กๆ จะได้เห็นภาพการยกย่องเชิดชูพี่ๆ ที่เรียนดีกิจกรรมดีและเป็นที่รักของเพื่อนๆ เมื่อได้เห็นตัวอย่างดีๆ แบบนี้แล้วเด็กๆ ทุกคนก็อยากได้เชิดชูเกียรติอย่างนี้บ้างเช่นกัน
14. ที่น่าทึ่งอีกอย่างคือ หอประชุมของโรงเรียนสาธิตเกษตรนี้กว้างใหญ่มากๆ ใหญ่ขนาดจัดคอนเสิร์ตได้สบายๆใครนึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงภาพหอประชุมของมหาวิทยาลัยนั่นแหละใช่เลย บรรจุเด็กทั้งโรงเรียนได้สบายๆ ดังนั้นในงานคอนเสิร์ตแต่ละปีก็ไม่ต้องไปจัดที่ไหน หอประชุมของโรงเรียนนี่แหละ อุปกรณ์ทุกอย่างเพียบพร้อมอยู่แล้ว ทำให้รุ่นพี่รุ่นน้องได้ร่วมสนุกด้วยกันในบรรยากาศที่ปลอดภัย เพราะมีคอนเสิร์ตดีๆ นักร้องดังๆ มาเล่นถึงในรั้วโรงเรียนเลยทีเดียว
15. สำคัญที่สุดคือโรงเรียนสาธิตเกษตรมีครูอาจารย์ที่น่ารัก มากล้นด้วยความรู้ความสามารถ แถมยังใจดีเป็นที่รักของเด็กๆ เป็นอย่างมาก แม้ว่าแต่ละปีเมื่อเลื่อนชั้นเด็กๆ จะได้พบกับอาจารย์ท่านใหม่ แต่พวกเขาก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงอาจารย์ที่เคยสอนเขาในปีที่ผ่านๆ มา เด็กๆจะแวะไปสวัสดีทักทายแสดงความเคารพอาจารย์บ่อยๆ แสดงถึงความรักที่อาจารย์และลูกศิษย์มีให้แก่กันและกัน
16. โรงเรียนจะมีวารสารแจกให้กับนักเรียนและอาจารย์ทุกคนชื่อว่า “สารสาธิตเกษตรสัมพันธ์” เป็นวารสารที่รวบรวมข่าวสารภายในโรงเรียน ใครได้รับรางวัลอะไรบ้าง อาจารย์ท่านไหนมีผลงานโดดเด่นเป็นพิเศษ นักเรียนคนไหนทำความดีก็จะมาปรากฏอยู่ในวารสารเล่มนี้ รวมทั้งภาพกิจกรรมต่างๆ ของเด็กๆ ที่ผ่านมาในแต่ละเทอมด้วย วารสารนี้จะออกปีละ 3-4 ฉบับรวมทั้งมีคอลัมน์ “ลั่นทุ่งบางเขน” ที่เด็กๆ ต่างก็ใจจดใจจ่อรออ่าน เพราะมีคอลัมน์แซวนักเรียนผ่านมุมมองของอาจารย์ ใครมีชื่ออยู่ในคอลัมน์นี้รับรองดังไปทั้งชั้นปีกันเลยทีเดียว
17. สุดท้ายที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ก็คือ ความสมัครสมานสามัคคีระหว่างครูอาจารย์และผู้ปกครอง เนื่องจากโรงเรียนมีกิจกรรมให้เด็กๆ เยอะแยะมากมาย กิจกรรมเหล่านี้บางกิจกรรมเป็นกิจกรรมที่อาจารย์และผู้ปกครองร่วมกันจัดขึ้นเพื่อมอบความสุขและการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ให้กับเด็กๆ เช่น กิจกรรมงานประจำปี งานแรลลี่ งานฟุตบอล งานคอนเสิร์ต งานทอดผ้าป่าสามัคคี และอื่นๆ อีกมากมาย
ที่กล่าวมา17 หัวข้อนี้อาจยังไม่ครอบคลุมทั้งหมดแต่ก็น่าจะเพียงพอที่จะพูดได้ว่าโรงเรียนสาธิตเกษตรเป็น “The Best of School” คงพอจะทำให้ทุกท่านได้เห็นภาพรวมบ้าง ฝากแชร์ต่อให้กับเพื่อนๆด้วยนะครับ อยากรู้อะไรอีกสอบถามมาในคอมเม้นต์ได้เลย ♥
«เรื่องที่เกี่ยวข้อง»
〉คุณแม่ใจสู้พาลูกสอบเข้า “สาธิตประสานมิตร”
〉ความดี 7 ข้อของโรงเรียนสาธิต
〉พ่อแม่เด็กสาธิต ต้องอย่างนี้
〉9 เคล็ดลับ ชวนลูก ทำแบบฝึกหัด ให้สนุก และได้ผล
〉ติวกับครู หรือ ติวเองดี
〉เกณฑ์อายุสอบเข้าสาธิต
〉สัมภาษณ์ครอบครัวน้องทอฝันและทอฟ้า (พี่แก้มป่องกะน้องน้ำปั่น)
〉เราได้อะไรจากการพาลูกสอบสาธิต
〉แนะนำแบบฝึกหัดสอบเข้าสาธิต
เรียนที่บางเขน รับสมัคร น้องที่กำลังเรียน อ2 สมัครถึง พย ของทุกปีค่ะ
อยากให้ลูกสอบเข้า IP ป1 สาธิตเกษตร นี่ต้องทำอย่างไรหรือคะ
และเรียนที่วิทยาเขตไหน มีรายละเอียดหรือไม่คะ
ขอบคุณมากค่ะ