ลุ้นผลลูกคนที่สองให้เรียนที่เดียวกับพี่
วันที่ 2 เมษายนของทุกปี ถือเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งสีประจำพระองค์ (สีม่วง) เป็นสีเดียวกับสีประจำโรงเรียนสาธิตเกษตร ซึ่งจะมีการประกาศผลการสอบคัดเลือกนักเรียน ป.1 ในวันนี้เช่นกัน
ปีนี้เป็นการลุ้นผลสอบลูกสาวคนเล็ก ซึ่งสถานการณ์ก่อนวันประกาศผลค่อนข้างผ่อนคลายกว่าลูกคนแรก ภรรยาผมเข้าใจแล้วว่าการตื่นทั้งคืนตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์เพื่อส่งพลังจิตให้ผลสอบลูกออกมาอย่างใจหวัง ไม่เท่ากับการเตรียมตัวลูกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ผมตื่นเช้าตามปรกติและไปวิ่งออกกำลังกายหน้าบ้าน โดยลืมไปเลยว่าผมต้องเป็นคนทำกับข้าวเช้านี้ พอกลับเข้ามาในบ้านภรรยาผมจึงบ่นเป็นการใหญ่เพราะเธอต้องเป็นคนทำเหมือนเดิมแถมน้ำปลาก็หมด จึงมีคำสั่งให้ผมวิ่งไปซื้อนำ้ปลาที่ร้าน 7-11 หน้าบ้าน แน่นอนว่าผมทำตามโดยไม่มีท่าทีขัดขืน และเข้าใจเลยว่าการที่ภรรยาไม่ได้มีจิตใจจดจ่อต่อผลสอบลูกเพียงอย่างเดียวเหมือนปีก่อนทำให้เธอสามารถคิดเรื่องอื่น ๆ และมีเวลามาบ่นผมยกใหญ่
ผมเดินถือขวดน้ำปลาโดยไม่ได้ให้พนักงานใส่ถุงหูหิ้วเพื่อลดปริมาณขยะตามที่สาธิตเกษตรสอนลูกมา ทำให้ได้เห็นว่า น้ำปลามีสีเหมือนเหล้าที่ผมงดมาตั้งแต่ปีใหม่จากการถือศีล 5 ของผม การปฏิเสธการดื่มเหล้าต่อเพื่อน ๆ ตอนโตง่ายกว่าตอนสมัยวัยรุ่นมากเพราะทุกคนรับฟังเหตุผล
เช่นเดียวกับการปฏิเสธการดื่มเหล้าในวงเพื่อนผู้ปกครองที่ผมไปสังสรรค์มาเมื่อคืน พวกเรามาจากพื้นเพที่ต่างกัน อาชีพการงานต่างกัน ฐานะทางการเงินต่างกัน สถาบันการศึกษาต่างกันและส่วนใหญ่ไม่ได้จบจากสาธิตเกษตร แต่สิ่งที่ทำให้เราเท่าเทียมกันและมาร่วมอยู่ในวงสังสรรค์เดียวกันคือ มีลูกอยู่สาธิตเกษตร ซึ่งทั้งลูกและผู้ปกครองก็มีสังคมใหม่ร่วมกัน
ในวงก็จะมีทั้งขู่ ทั้งปลอบ เรื่องผลสอบลูกในวันรุ่งขึ้น เพื่อนบางคนที่ไม่ละแอลกอฮอล์และมีความเครียดเรื่องลุ้นผลสอบมากๆ ถึงกับร้องไห้ออกมาเมื่อโดนขู่ว่าลูกคงจะสอบไม่ได้ และเป็นเรื่องตลกเอาไว้อำกันในครั้งต่อ ๆ ไป
วันนี้ลูกสาวตื่นนอนเร็วมากเพราะเธอจำได้ว่าวันนี้เป็นวันประกาศผล ซึ่งความสามารถในการอ่านปฏิทินนี้เธอได้รับจากการพร่ำสอนของคุณแม่จากช่วงเวลาเตรียมความพร้อมเพื่อสอบคัดเลือก
เช้านี้ทุกคนอาบน้ำทานข้าวเสร็จตั้งแต่เจ็ดโมงกว่า ผมจึงชวนภรรยาไปดูผลสอบหน้าโรงเรียน แต่ภรรยาเกิดกลัวขึ้นมา และขอลุ้นผลทางอินเทอร์เน็ตก่อนเพราะสามารถดูผลได้พร้อมกับหน้าโรงเรียนตอน 8 โมงอยู่ดี ต่างกับตอนลูกชายคนโตที่โรงเรียนอนุญาตให้เข้าไปดูได้ในโรงเรียนได้ตั้งแต่เช้าตรู่
ระหว่างรอผมก็เดินชมสวนหน้าบ้าน เห็นดอกกล้วยไม้สีม่วงเริ่มบานออกมารับฝนจากพายุฤดูร้อนที่ตกต่อเนื่องมาหลายวันและถือเป็นลางที่ดี แต่จู่ๆภรรยาก็ตะโกนเรียกชื่อผมและบอกว่า “ทำไมไม่มีชื่อล่ะ” ผมรีบวิ่งขึ้นบ้านเพราะคิดว่าคงมีใครถ่ายรูปติดเอกสารประกาศผลส่งมา ภรรยาผมส่งโทรศัพท์ให้ดู ปรากฎว่าเธอตรวจสอบในเว็บไซด์เพราะตอนนั้น 8 โมงแล้วและจอแสดงผลว่า “ขอแสดงความเสียใจ คุณไม่ผ่านการคัดเลือก”
ผมถามเธอว่ากรอกเลขอะไรไป เธอบอกเลขประจำตัวสอบ ผมบอกให้อ่านใหม่เขาให้กรอกเลขประจำตัวประชาชน เป็นครั้งหนึ่งที่ผมได้ขึ้นเสียงอย่างภาคภูมิและแสดงความเหนือกว่าด้วยการมีเลขประจำตัวประชาชนลูกอยู่ในโทรศัพท์ จึงออกคำสั่งให้เธอกรอกเลขใหม่
คราวนี้หน้าจอขึ้นชื่อลูกพร้อมแสดงผล “คุณผ่านการคัดเลือก”
แล้วก็ได้เวลาที่พวกเราทั้งหมดจะออกเดินทางไปดูบอร์ดประกาศผลสอบหน้าโรงเรียนเพื่อให้ลูกสาวชี้ชื่อตัวเองและถ่ายรูปตามพิธีกรรมที่ทำมาตั้งแต่ลูกคนแรก
อัตราการแข่งขันของเด็กๆ ที่สอบเข้าโรงเรียนสาธิตเกษตรในปีที่ผ่านมาคือ 130 ต่อ 2,200 ผู้ผิดหวังก็ย่อมจะมีจำนวนมากกว่าผู้สมหวังอยู่แล้ว
และการคัดเลือกของสาธิตเกษตรค่อนข้างซับซ้อน และมีการแบ่งเด็กเกิดต้นปีกับเด็กเกิดปลายปี คละกันไปในแต่ละปี เพื่อต้องการเด็กไปศึกษาตามแนวทางสาธิต
สิ่งเหล่านี้นับว่าเป็นข้อดีสำหรับเด็กเกิดปลายปี เพราะหากไม่มีการแยกสัดส่วนดังกล่าว เด็กเล็กที่มีอายุอ่อนกว่ากัน 6 เดือนถึง 1 ปี จะไม่สามารถฝ่าฟันเข้าไปได้เลย
ดังนั้นเด็กที่ไม่ผ่านการสอบคัดเลือกไม่ใช่เด็กไม่เก่งแต่อาจเป็นเพราะจำนวนเด็กในช่วงอายุของเขาได้รับการคัดเลือกครบก่อนที่จะมาถึงลำดับของเขาเอง
บางครั้งจึงมีคำสัพยอกจากเพื่อน ๆ ที่ยังไม่มีลูกว่าสงสัยลูกมึงเป็นตัวประหลาดโรงเรียนจึงอยากเอาไปศึกษา ผมได้แต่โต้ตอบกลับไปว่า มึงมีลูกอย่ามาถามว่า อยากเอาลูกเข้าสาธิตเกษตรต้องเตรียมตัวยังไงก็แล้วกัน ♣
«เรื่องที่เกี่ยวข้อง»
〉ลุ้นผลลูกคนแรกสอบเข้าสาธิตเกษตร
〉พ่อแม่เด็กสาธิต ต้องอย่างนี้
〉9 เคล็ดลับ ชวนลูก ทำแบบฝึกหัด ให้สนุก และได้ผล
〉ติวกับครู หรือ ติวเองดี
〉เกณฑ์อายุสอบเข้าสาธิต
〉เราไม่ใส่ความคาดหวังลงไปในใจลูกดีกว่าไหม
〉ความดี 7 ข้อของโรงเรียนสาธิต
〉เราได้อะไรจากการพาลูกสอบสาธิต
〉คุณพ่อไอที แนะปิดทีวีและมือถือ อ่านหนังสือดีกว่า
〉ปรับตัวเตรียมใจก่อนพาเด็กไทยลุย “กัวลาลัมเปอร์”
〉สัมภาษณ์ครอบครัวน้องทอฝันและทอฟ้า (พี่แก้มป่องกะน้องน้ำปั่น)
〉แนะนำแบบฝึกหัดสอบเข้าสาธิต