เราไม่ใส่ความคาดหวังลงไปในใจลูกดีกว่าไหม
หลังจากที่ได้ติดตามบรรยากาศการประกาศผลสอบสาธิตในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รู้สึกดีใจและยินดีกับครอบครัวที่สมหวัง เพราะความสมหวังในครั้งนี้ต้องผ่านอะไรมามากมาย ส่วนครอบครัวที่พลาดหวัง หากทำเต็มที่แล้วก็ไม่มีอะไรที่น่าเสียใจเลยค่ะ ลูกของเรายังเป็นคนเก่ง และเก่งขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำที่สามารถเอาชนะตัวเองได้ เด็กที่ขึ้นห้องไปสอบ ทุกคนเก่งหมดค่ะ
ขอส่งมอบกำลังใจให้ทุกครอบครัว และหวังว่าทุกบ้านจะจับมือกันก้าวผ่านความผิดหวัง ยังคงรักกัน และส่งกำลังใจให้แก่กันยิ่งขึ้นกว่าเดิมนะคะ

พี่แก้มป่องระหว่างรอขึ้นห้องสอบปี 2557
ขอเล่าประสบการณ์ตรงของตัวเองที่ได้พาลูกทั้งสองคนสอบสาธิต ตอนนั้นก็กังวลมากไม่ต่างจากพ่อแม่บ้านอื่น แน่นอนว่าพ่อแม่อย่างเราย่อมคาดหวังให้ลูกสอบได้ แต่เชื่อไหมคะว่า ลูกสาวทั้งสองคนแทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าพ่อแม่คาดหวังในตัวเขามากแค่ไหน ตลอดช่วงเวลาของการเตรียมตัว ลูกไม่เคยได้ยินคำว่าทำข้อสอบหรือลูกต้องสอบให้ผ่านเลย บอกลูกไปแค่ว่าเรามาทำแบบฝึกหัดสนุกๆ กัน ลูกก็จะรู้แค่ว่าลูกมีหน้าที่ที่จะต้องทำแบบฝึกหัดเหมือนกับเพื่อนๆ แบบฝึกหัดจะช่วยให้ลูกคิดเก่งขึ้น แบบฝึกหัดมีอะไรสนุกๆ ซ่อนอยู่ และก็ท้าทายให้ลูกได้คิด
และทุกครั้งที่ไปสนามสอบจำลอง ก็ไม่เคยบอกลูกว่าไปทำข้อสอบ แต่จะบอกลูกทุกครั้งว่า ไปทำแบบฝึกหัดสนุกๆ และให้ลูกช่วยมาเล่าให้แม่ฟังด้วยว่าสนุกกว่าของแม่มั้ย และเมื่อคะแนนออกมาดีก็ชื่นชมปานว่าได้แชมป์กีฬาโอลิมปิก เขาก็จะรู้สึกตัวพอง และมีกำลังใจทำครั้งต่อไปให้ดีขึ้นกว่าเดิม
แต่ถ้าคะแนนตกลงมาก็ยังชื่มชมอยู่เหมือนเดิม และบอกว่าหนูเก่งอยู่แล้ว ครั้งหน้าหนูต้องดีขึ้นกว่านี้แน่นอน ความผิดถือเป็นครู วันนี้หนูควรจะดีใจที่ได้ครูเพิ่มขึ้นอีกคน เพราะครูมาช่วยย้ำให้จำได้แม่นๆ ว่าผิดเพราะอะไร ข้อที่ผิดมีค่ากว่าข้อที่ถูกอีกนะ ข้อที่เคยทำถูกหนูจะไม่จำ แต่ข้อที่ผิดจะช่วยให้หนูจำได้แม่น พอเจอแบบฝึกหัดแบบนี้อีกก็จะจำได้แม่นว่า อ้อ เราเคยผิดมาแล้วนี่นา ครั้งนี้หลอกเราไม่ได้หรอก
เมื่อลูกได้รับความชื่นชมอยู่เสมอ ไม่ว่าคะแนนดีหรือไม่ดี ลูกก็จะไม่รู้สึกผิดหวัง ไม่รู้สึกว่าตัวเองแย่ลงเลยค่ะ

น้องน้ำปั่นระหว่างรอขึ้นห้องสอบปี 2559
ครั้งหนึ่ง ครอบครัวเราก็เคยผิดหวังเช่นกันค่ะ แต่เราก็ผ่านมาได้ โดยที่ทุกคนไม่ได้รู้สึกแย่ลงเลย คือเมื่อปีก่อนลูกสาวคนโตแข่งเปียโนได้ที่ 3 ของระดับประเทศ ทุกคนดีใจมาก ลูกก็ดีใจ
แต่ปีต่อมาลูกตกรอบตั้งแต่รอบคัดเลือก ไม่ได้ไปต่อในรอบชิง ตอนนั้นหลังจากลูกลงจากเวทีก็ยังไม่ได้พูดอะไร แค่มองหน้าลูกแล้วถามว่า หนูรู้สึกยังไงคะ ลูกตอบมาแค่สั้นๆ ว่า หนูไม่รู้สึกยังไงค่ะ ปีหน้าหนูจะเอาใหม่ ฟังแค่นี้ก็ชื่นใจมากค่ะ ลูกรู้จักรับมือกับความผิดหวังได้ และไม่ได้รู้สึกว่าพ่อกับแม่จะรักเขาน้อยลง อยากบอกว่ากำลังใจ ความชื่นชม และความเชื่อมั่นใจตัวลูก จะเป็นพลังที่ทำให้ลูกก้าวผ่านความผิดหวังไปได้ค่ะ
และพอถึงวันสำคัญคือวันสอบจริง ก็ปฏิบัติกับเขาเหมือนวันปกติค่ะ มีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้นที่เครียดกว่าปกติ เพราะต้องคิดหาวิธีว่าจะทำยังไงให้ลูกได้นอนเต็มที่ ได้กินเต็มอิ่ม อารมณ์แจ่มใสร่าเริงพร้อมขึ้นห้องสอบ
วันนั้นจะย้ำกับลูกทั้งสองคนเหมือนกันว่า ตั้งใจฟังครูและทำให้ครบทุกข้อนะลูก และอย่าลืมมาเล่าให้แม่ฟังด้วยนะว่าแบบฝึกหัดของครูน่ะสนุกกว่าของแม่มั้ย แม่น่ะเสียใจมากเลย แม่อยากไปทำแบบฝึกหัดสนุกๆ แบบนั้นบ้าง แต่ครูเขาไม่ยอมให้แม่ขึ้นไป เขาให้แค่เด็กเก่งๆ ขึ้นไปเท่านั้น ทำไมน้า แม่อยากขึ้นไปจริงๆ นะ อยากรู้ว่าจะสนุกแค่ไหน ลูกก็จะรู้สึกว่าเขามีอภิสิทธิ์เหนือแม่อย่างเรา เขาจะรู้สึกท้าทาย ดูตัวเองยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะกับลูกคนเล็ก แผนนี้ได้ผลดีมากค่ะ เธอไม่รู้ตัวเลยว่าเธอถูกคาดหวังมากแค่ไหน พ่อกับแม่กดดันเธอแค่ไหน แต่เธอกลับวิ่งไปกระโดดไป จนขึ้นห้องสอบค่ะ
เด็กไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่า ความรัก กำลังใจ และความชื่นชมของพ่อแม่ หากลูกสอบไม่ติด แต่พ่อแม่ยังรัก ยังชื่นชมในตัวเขา ยังเห็นเขาเป็นคนเก่งเหมือนอย่างที่เคยเป็น แค่นี้ก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายจิตใจลูกได้ค่ะ ♥
«เรื่องที่เกี่ยวข้อง»
〉แนะนำแบบฝึกหัดสอบเข้าสาธิต
〉พ่อแม่เด็กสาธิต ต้องอย่างนี้
〉9 เคล็ดลับ ชวนลูก ทำแบบฝึกหัด ให้สนุก และได้ผล
〉ติวกับครู หรือ ติวเองดี
〉เกณฑ์อายุสอบเข้าสาธิต
〉ลุ้นผลลูกคนที่สองให้เรียนที่เดียวกับพี่
〉สัมภาษณ์ครอบครัวน้องทอฝันและทอฟ้า (พี่แก้มป่องกะน้องน้ำปั่น)
〉ความดี 7 ข้อของโรงเรียนสาธิต
〉เราได้อะไรจากการพาลูกสอบสาธิต
ขอบคุณคุณ Natthacha ครับ ผมสะกิดผู้เขียนให้แล้ว เดี๋ยวต้องมีบทความดีๆ แบบนี้ตามมาอีกแน่นอน
รอตามอ่านนะครับ
ชอบบทความลักษณะนี้ค่ะ อยากให้เพจจัดมาลงเพิ่มเติม
รวมถึงข้อแนะนำในการจัดการความเครียดสำหรับทั้งเลูกและผู้ปกครองด้วยค่ะ